[FOR]
[ FOR ]
(WINNER x SouthClub : Minho x Taehyun)
แสงไฟน้ำเงินสลับม่วงเล็ดลอดออกมาตามช่องประตู ผมยืนถอนหายใจอยู่เบื้องหน้าบานประตูอีกฟาก
'อีกแล้วสินะ'
ผมคิดในใจพลางไขกุญแจเข้าไป มีคนอยู่ข้างในราว ๆ ห้าคนพวกเขาไม่ได้ตกใจกับผู้ที่มาใหม่ ไม่มีใครสนใจผมด้วยซ้ำ
ผมคิดในใจพลางไขกุญแจเข้าไป มีคนอยู่ข้างในราว ๆ ห้าคนพวกเขาไม่ได้ตกใจกับผู้ที่มาใหม่ ไม่มีใครสนใจผมด้วยซ้ำ
กลิ่นฉุนคละคลุ้งห้อง ควันบุหรี่ฟุ้งกระจาย ผมมองเห็นว่าต้นเหตุคือใครสักคนที่อยู่มุมเครื่องซักผ้า ผมกวาดตามองไปรอบ ๆ พี่สาวของผมอยู่ตรงนั้น บนโซฟากับแฟนหนุ่ม แขนซ้ายของเขาที่ประคองหน้าเธอมีรอยสักเป็นตัวอักษรที่ผมมองไม่ชัดว่าคือคำว่าอะไร ผมส่ายหน้าเหนื่อยหน่าย พวกเขาผละออกจากกัน
ในที่สุดผมก็มีตัวตนเสียที
"ห้ามบอกแม่" เธอบอก
"พี่ก็เลิกทำแบบนี้เสียที ไม่ก็ไม่ทำที่อื่น แม่ไม่ได้เช่าที่นี่ให้พี่อยู่คนเดียวจำไว้ด้วยสิ" ผมไม่ได้รอฟังว่าเธอจะพูดอะไรต่อไหม เลือกที่จะเดินหนีไปที่ห้องของตัวเองดีกว่า
ทว่าในห้องนอนของผม บนเตียงของผม คนแปลกหน้าสองคน พวกเขากำลังทำแบบนั้นกัน คุณรู้ใช่ไหม แบบนั้นที่ผมหมายถึง ผมรีบปิดประตู มันบ้ามาก ผมหัวเสียและตกใจ
"ขอโทษแทนเพื่อนด้วยนะ" เสียงหนึ่งเอ่ยขึ้น เรียวนิ้วมีมวนบุหรี่ที่จวนจะหมด คุณยิ้มขำเล็ก ๆ "ดื่มอะไรหน่อยไหม พวกเขาคงใช้เวลาอีกสักพัก"
"ผมจะไปนอนที่อื่น ฝากบอกพวกเขาให้ทำความสะอาดด้วย"
ผมจะเดินเลี่ยงออกไป อันที่จริงผมยังไม่รู้ว่าจะไปนอนที่ไหน แต่ให้เป็นที่ห้องตัวเองวันนี้ ในคืนนี้ไม่ได้แน่ ๆ ต่อให้พวกเขาจะกลับไปแล้วก็เถอะ
ผมจะเดินเลี่ยงออกไป อันที่จริงผมยังไม่รู้ว่าจะไปนอนที่ไหน แต่ให้เป็นที่ห้องตัวเองวันนี้ ในคืนนี้ไม่ได้แน่ ๆ ต่อให้พวกเขาจะกลับไปแล้วก็เถอะ
"ต้องขนาดนั้นเลยหรือไง"
"ใช่น่ะสิ ทำไมพวกเขาต้องมา....ทำแบบนั้นด้วย นั่นเตียงผม" ไม่กล้าพูดว่าพวกเขาทำอะไร ให้ตายเถอะมินจาพี่สาวของผมคงไม่เคยทำแบบนั้นใช่ไหม
"มินจาเคยเล่าว่านายกำลังเรียนมอปลายใช่ไหม ..มินโฮ?"
คุณเดินเข้ามาใกล้อีกนิด ผมยังไม่ทันตอบอะไรก็ได้ยินเสียงแปลกๆ ดังมาจากในห้อง ผมสะดุ้งนิดหน่อย แต่คุณกลับหัวเราะลั่น
คุณเดินเข้ามาใกล้อีกนิด ผมยังไม่ทันตอบอะไรก็ได้ยินเสียงแปลกๆ ดังมาจากในห้อง ผมสะดุ้งนิดหน่อย แต่คุณกลับหัวเราะลั่น
"นายน่ารักว่ะ ซงมินจา! เจ้านี่น่ะฉันขอนะ!"
ช้าก่อน ช้าก่อนสิคุณจะลากผมออกมาจากห้องทั้งอย่างนี้ไม่ได้ ผมไม่ใช่คนตัวเล็กและคุณก็ไม่ใช่คนตัวเล็กส่วนสูงเราคงไล่เลี่ยกัน ผมยื้อยุดกับคุณตรงหน้าห้อง มือที่เต็มไปด้วยรอยสักของคุณกำข้อมือผมแน่น ผมเพิ่งได้มองหน้าคุณชัด ๆ จากแสงไฟตรงโถงทางเดิน....
ผมต้องเสียสติไปแล้วแน่ ๆ
เพราะผมกำลังนั่งให้คุณมองอยู่ในห้องที่คุณบอกว่าเป็นของคุณ คนที่ผมเพิ่งเจอและไม่รู้จักชื่อด้วยซ้ำ คุณเท้าคางมองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า
คุณยิ้ม...มันแปลกที่ผมคิดว่ามันน่ารักเพราะคุณคือผู้ชายตัวสูง ร่างกายเต็มไปด้วยรอยสักไม่ต่างจากแฟนของมินจา มีรอยสักที่อกด้วย ผมไม่ได้จะตั้งใจมองนะ เพราะคุณติดกระดุมไม่หมดต่างหาก ผมเกาจมูกแก้เก้อ เปลี่ยนองศาหน้าก้มมองต่ำลง
คุณยิ้ม...มันแปลกที่ผมคิดว่ามันน่ารักเพราะคุณคือผู้ชายตัวสูง ร่างกายเต็มไปด้วยรอยสักไม่ต่างจากแฟนของมินจา มีรอยสักที่อกด้วย ผมไม่ได้จะตั้งใจมองนะ เพราะคุณติดกระดุมไม่หมดต่างหาก ผมเกาจมูกแก้เก้อ เปลี่ยนองศาหน้าก้มมองต่ำลง
ข้อเท้าคุณเล็กเหมือนข้อเท้าผู้หญิง...ผมสะดุ้งเมื่อคุณยกเท้าขึ้นมาวางบนหน้าตักผม
"เห็นมองอยู่นานแล้ว เผื่ออยากเห็นใกล้ๆ" ผมไม่รู้จะตอบคุณว่าอะไร "วันนี้นอนที่นี่แหละ ไม่ทำ แบบนั้น หรอก" คุณคงจงใจเน้นคำนั้นล้อเลียนผมแน่ และใช่...
ผมเสียสติไปแล้วที่ตอบตกลง
ผมยอมให้คุณเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัว...เข้ามาโดยได้รับอนุญาต
"ถึงกับต้องเปลี่ยนเครื่องนอนยกเซ็ทเลยหรือไง" คุณเอ่ยถามขึ้นเมื่อเดินเข้ามา
"ถ้าเป็นไปได้ผมจะเปลี่ยนเตียงด้วยซ้ำ"
"ลายผ้าปูที่นอนดูลุงชะมัด เหมือนนายเลยทั้ง ๆ ที่เป็นแค่เด็กมอปลายแท้ ๆ "
"ก็แค่เอาไว้นอน" ผมตอบเขาไปแบบนั้นแต่ก็พลันนึกถึงเรื่องเมื่ออาทิตย์ก่อน
"เด็กทะลึ่ง นายคิดเรื่องนั้นอยู่ล่ะสิ สีหน้าออกหมดแล้ว" คุณเดินเข้ามาใกล้ ลมหายใจของคุณเจือกลิ่นบุหรี่ แต่กลิ่นกายคุณหอม
"แทฮยอน เลิกแกล้งผมเถอะ" คุณไม่หยุด เอาแต่พ่นลมรดหน้าผม
"เคยทำเรื่องอย่างว่าไหมมินโฮ" คุณถามเสียงเรียบ ทำไมต้องทำหน้าจริงจังขนาดนั้น
"....เคยสิ ผมก็ผู้ชาย"
"ยังไง กับใคร เมื่อไหร่" คุณถามลึกและตรงเกินไปนั่นมันทำให้ผมอายที่จะตอบนะ
"ตอบสิ"
คุณยังจะเซ้าซี้จะเอาคำตอบให้ได้
"ตอบสิ"
คุณยังจะเซ้าซี้จะเอาคำตอบให้ได้
"ไม่ได้ทำกับใคร...หมายถึง-"
"แค่ช่วยตัวเองหรอ"
"ผมคิดว่าเรายังไม่สนิทถึงขนาดพูดเรื่องนี้เหมือนเป็นเรื่องปกตินะ"
"ก็สนิทซะสิ"
อย่าพูดเหมือนมันง่ายขนาดนั้นเลย แม้แต่กับเพื่อนที่โรงเรียนผมยังใช้เวลาเป็นเทอมกว่าพวกเขาจะรับไอ้เนิร์ดตัวโย่งอย่างผมเข้ากลุ่ม
อย่าพูดเหมือนมันง่ายขนาดนั้นเลย แม้แต่กับเพื่อนที่โรงเรียนผมยังใช้เวลาเป็นเทอมกว่าพวกเขาจะรับไอ้เนิร์ดตัวโย่งอย่างผมเข้ากลุ่ม
"ทำกันไหม" คุณถามต่อ อะไรของคุณกันเนี่ย
"ลองดูกับฉันไง จะได้สนิทกัน" คุณยิ้มหวานแล้วลุกขึ้นเดินมาหา ผมยังไม่ทันได้ตอบอะไร ผมคิดไม่ทันและตอบไม่ได้เพราะเรากำลังแนบชิด ถึงแม้จะตกใจแต่ผมก็มีสัญชาตญาณ.....
"ลองดูกับฉันไง จะได้สนิทกัน" คุณยิ้มหวานแล้วลุกขึ้นเดินมาหา ผมยังไม่ทันได้ตอบอะไร ผมคิดไม่ทันและตอบไม่ได้เพราะเรากำลังแนบชิด ถึงแม้จะตกใจแต่ผมก็มีสัญชาตญาณ.....
ครั้งแรกของเราเกิดขึ้นในวันนั้น ผมเป็นผู้ชายวัยรุ่นไม่ใช่ผมไม่รู้ว่าต้องทำยังไงเพียงแต่ยังไม่เคยได้ทำ เขาบอกให้ผมทำตามอารมณ์ นี่มันตื่นเต้นเป็นบ้าเลย หนังที่เคยดู หนังสือที่เคยอ่าน คำบอกเล่าจากใครต่อใครรอบข้าง เกี่ยวกับเรื่องนี้ย้อนกลับมาในหัว...แต่คูณสิบคูณร้อย ประเมินค่าไม่ได้
บางช่วงผมรู้สึกเหมือนตายแล้วฟื้น รู้สึกอุ่น ร้อน แล้วเบาหวิว คุณบอกให้พอในครั้งที่สามแต่ผมกลับรั้น นั่นเป็นสาเหตุที่คุณยังนอนบนเตียงของผมเมื่อเวลาเกือบบ่ายโมง
บางช่วงผมรู้สึกเหมือนตายแล้วฟื้น รู้สึกอุ่น ร้อน แล้วเบาหวิว คุณบอกให้พอในครั้งที่สามแต่ผมกลับรั้น นั่นเป็นสาเหตุที่คุณยังนอนบนเตียงของผมเมื่อเวลาเกือบบ่ายโมง
คุณมองค้อนผมโดยที่ยังนอนคว่ำอยู่ตั้งแต่เมื่อคืน ผมอยากขอโทษ แต่กลับไม่รู้สึกผิดเท่าไหร่นัก ผมพยายามหุบยิ้มแต่ตอนที่โดนคุณปาหมอนใส่
"แรงเยอะเหลือเกินนะ"
"จะได้สนิทกันไง..คุณพูดเองนี่"
เราสนิทกัน
แนบสนิทก็ด้วย
ห้องของผมได้ต้อนรับคุณบ่อย มันยินดีเพราะผมโคตรยินดี ผมตื่นเต้นน้อยลงแต่ต้องการมากขึ้น
"เก่งขึ้นนะ" คุณชมขณะที่มือยืดแก้มของผมเหมือนเด็ก ผมยอมถูกชมเหมือนเด็กถ้ามันจะทำให้คุณจูบผมซ้ำ ๆแบบตอนนี้
ผมรู้จักคุณมากขึ้น คงพอ ๆ กับที่คุณรู้จักผม
ความรู้สึกของผมมันเพิ่มมากขึ้นและคิดว่าคุณก็คงเหมือนกัน
ผมชอบมีคุณ ไม่จำเป็นต้องร่วมเตียงก็ได้ แต่มีคุณ
ผมชอบมองคุณใกล้ ๆ ไม่ต้องจูบก็ได้ แค่ได้เห็นคุณ
วันนี้คุณอนุญาตให้ไปหาที่งานของคุณได้ ยืนมองตัวเองในกระจก ผมไม่อยากเป็นไอ้เห่ยในสายตาคุณ ลองจับดูผมของตัวเองมันค่อนข้างยาวแล้วคงจะต้องตัดออกสักหน่อย แต่จะยังมีร้านตัดผมที่ยังเปิดอยู่ไหมในเวลาเกือบห้าทุ่ม ผมตัดสินใจลงไปที่ชั้นสองของอพาร์ทเมนท์ ลองดูเผื่อว่าเขาจะช่วยได้
“ไง”
“ลมอะไรหอบนายมาวะเนี่ย”
“ช่วยทำอะไรสักอย่างให้มันดูดีกว่านี้ได้ไหม”
ผมพูดพลางชี้ที่ผมเจ้าปัญหาบนหัวตัวเอง เขาทำหน้าประหลาดใจนิดหน่อย ผมกับเขาย้ายเข้ามาที่นี่พร้อมกัน
“เข้ามาก่อน”
ผมมายืนอยู่ที่หน้าเวทีราว ๆ ห้าทุ่มเกือบเที่ยงคืน ไม่ถึงกับหน้าเวทีเสียทีเดียวมันออกจะชิดขวาสักหน่อย ผมค่อนข้างขัดเขินกับทรงผมของตัวเองที่จัดทรงมานิดหน่อย พูดให้ถูกคือบ๊อบบี้เป็นคนจัดทรงให้ เจ้าของห้องชั้นสองที่ผมไปรบกวนเขานั่นแหละ
มันดูเหมือนผมที่สระยังไม่แห้งแล้วถูกปัดไปข้างหลังแบบที่ผมเคยเห็นเขาทำ ‘สาว ๆ ต้องมองนายจนเหลียวหลังแน่เชื่อสิ’ เขาบอกแบบนั้น แต่นั่นแหละ ผมก็ยังไม่เชื่อเขาไม่เต็มร้อยอยู่ดีว่ามันไม่ได้ออกมาแปลก ๆ ใช่ไหม
เสียงซาวน์เช็คดังขึ้นปลุกผมจากภวังค์ คุณที่ยืนอยู่บนนั้นดูงดงามกว่าทุกอย่าง ผมยืนนิ่งตรงนี้เฝ้ามองตั้งแต่คุณเริ่มร้องเพลงแรกจนถึงเพลงสุดท้าย ผมเดินเก้ง ๆ กัง ๆ เข้าไปหา ยิ้มให้คุณเหมือนทุกครั้งแต่สีหน้าของคุณดูไม่สบอารมณ์นัก
"ทำผมทรงอะไรของนาย" เขาขมวดคิ้วมุ่น
"บ๊อบบี้ทำให้" คุณเอื้อมมือมาขยี้จนมันกระเซิงไม่เป็นทรง
"ไม่ต้องทำอีกดีกว่า"
"มันดูแย่ใช่ไหม นึกอยู่แล้วเชียว" มันคงประหลาดจริง ๆ
ผมเดินตามคุณมาที่รถ
"ให้ผมขับไหม" คุณเลิกคิ้วประหลาดใจ "ผมไปเรียนมา ขับได้" ผมอยากเป็นผู้ชายที่คุณเพิ่งพาได้ในตอนที่คุณเหนื่อย
"เอาสิ"
ผมแบมือขอกุญแจ แต่คุณกลับส่ายหน้า
"Drive me crazy." เอาล่ะ ผมจะไม่ยับยั้งชั่งใจอะไรทั้งนั้น เราไม่ได้ตระเตรียม แต่ผมจะทำให้มันออกมาดี
เราไปถึงปลายทางโดยที่ล้อรถไม่ได้หมุนเคลื่อน โอเค อาจจะเคลื่อนนิดหน่อยก็เพราะความน่ารักของคุณ
ผมบอกรักคุณอีกครั้ง แต่คุณไม่ได้ตอบกลับมา
คุณโน้มตัวเข้าหาแล้วจูบผมแผ่วเบา
จูบที่ผมเข้าใจว่าคือการแสดงความรักในแบบของคุณ เราแนบชิด บดเบียด นิ้วมือของคุณไล้แผ่วบนไหล่ของผม
สมองผมมีแต่คุณตลอดช่วงเวลานั้น
จริง ๆ ผมก็คิดถึงคุณตลอดเวลานั่นแหละ
เราเริ่มมันอีกครั้งเมื่อมาถึงห้องของผม ผมเลิกบ่นมินจาเรื่องที่พาเพื่อนมาจัดปาร์ตี้ในห้องแล้ว ขอแค่ไม่มายุ่งกับห้องของผมก็พอ
ผมนำ...คุณร่วมมือ ผมชอบจับข้อเท้าของคุณ วันนี้คุณน่ารักมากตามใจผมทุกอย่างจนสุดทางมันทำให้ผมได้ใจ ผมต้องการมากกว่านี้
"คบกันไหม" ผมเคยถามแล้วแต่ถามอีกครั้งเผื่อว่าคุณจะเปลี่ยนใจ "ผมอยากเจอคุณ ทั้งในห้องนี้ ข้างนอก ทุก ๆ ที่"
"ได้เจออยู่แล้วน่า กังวลอะไรไม่เป็นเรื่อง" คุณเมินที่จะตอบเหมือนเคย
"ผมอยากมีคุณ อยากให้คุณมีผม ผมจะรีบโตนะ" ผมกระชับกอดจากด้านหลังจูบลงบนลาดไหล่เนียน คุณประสานมือของเราเข้าด้วยกัน
"แค่อยู่แบบนี้ไปเรื่อย ๆ ก็พอไม่ต้องรีบหรอก"
"ถ้าอย่างนั้น ตลอดไปได้ไหม" คุณหันมาจูบที่ปลายคาง ผมเข้าใจว่ามันคือจูบสัญญาจากคุณ
เราเจอกันนาน ๆ ครั้ง ผมจึงดีใจมาก ๆ เวลาที่คุณเรียกให้ไปหา
ผมกังวลกับการโดดเรียนครั้งแรก แต่ความกลัวที่จะไม่ได้เจอคุณมีมากกว่า
คุณบอกว่าจะไปตามความฝัน ผมคิดว่ามันเท่มากเลยล่ะ มันยิ่งทำให้ผมหลงใหลในคุณ
"ผมไม่เรียนต่อดีไหม แล้วไปกับคุณด้วย" คุณตอบด้วยการถอนหายใจและผมเป็นกังวลต่อแววตาคุณตอนนี้มาก ๆ
คุณหายไปสองสัปดาห์แล้ว ผมไม่สบายใจเพราะติดต่อคุณไม่ได้เลย ผมโดดเรียนไปที่หน้าห้องของคุณ ผมไปเคาะประตูเรียกอยู่บ่อยครั้ง และคุณไม่ได้ไปร้องเพลงที่เดิมแล้ว
พี่สาวที่พึ่งพาไม่ได้เดินมานั่งข้างในวันที่ผมป่วย ผมแกล้งป่วยเป็นครั้งแรกเพราะไม่อยากไปเรียน จริง ๆ สภาพผมก็ไม่ต่างจากคนป่วยอาการสาหัส
โรงเรียนเชิญผู้ปกครองเพราะผมขาดเรียน
แต่ผมคิดแต่เรื่องของคุณ
"ฉันเคยสงสัยว่าแทฮยอนติดใจอะไรแก แกเนี่ยนะ"
"เงียบเถอะขอร้อง" ผมปัดมือเธอที่วางบนไหล่
"ขอโทษที่ไม่เคยเตือน ไม่คิดว่ามันจะยืดเยื้อ ไม่คิดว่าแกจะถลำลึกขนาดนี้” เธอสวมกอดผม "รักเขาใช่ไหม"
"ใช่....นึกว่าเขาก็รักเหมือนกัน"
"นี่ฟังนะน้องชาย แทฮยอนคือแมวจร เข้ามาอ้อนเมื่อต้องการความรัก แต่ถ้ามากไปมันก็ไม่ชอบใจมันไม่ติดอยู่ที่ไหนนาน ๆ หรอก"
"เขาอาจจะกลับมาก็ได้ถ้ารู้ว่าฉันรอ เรามีสัญญานะ เราสัญญาว่าจะอยู่ด้วยกัน"
“สัญญาหลังจากจบเรื่องบนเตียงน่ะหรอ คิดว่ามันจะจริงสักแค่ไหน”
ใช่แล้ว สัญญาด้วยจูบในตอนนั้น จูบที่ตีความไปเองของผม ถ้าผมกล้าทบทวนเรื่องที่ผ่านมา ถ้าผมไม่บ้าหลอกตัวเองก็คงคิดได้
ผมทำรัก...ในทุกครั้งของเรา
แต่คุณทำอะไร....ใช่รักหรือเปล่า
----------------- [FOR] -------------------
writer : @doziido
#510330tracks
track, beating and them
Comments
Post a Comment