[ NO ] : Spotless Mind





Spotless Mind






차라리
만나지 않았다면
괜찮았을까

Rather
If we hadn't met
Could I be okay?





1

นัมแทฮยอนก้มมองดูนามบัตรสีขาวสะอาดตาสภาพเยินๆ ในมือของตัวเอง เขายืนอยู่หน้าตึกแถวเก่าๆ ในย่านเสื่อมโทรมที่คนปกติไม่ค่อยเข้ามากันเท่าไหร่นัก แม้ฝนตกหนัก เขาก็ยังยืนตากฝนมองนามบัตรในมืออยู่หน้าตึกแถวอยู่อย่างนั้น ราวกับจะย้ำความมั่นใจอะไรบางอย่าง

สุดท้าย เขาก็เงยหน้าขึ้น กำนามบัตรเยินๆ ไว้ในมือ เดินเข้าไปในตึกแถวเก่าๆ นั่น เอื้อมมือไปบิดลูกบิดเก่าๆ ดันประตูเปิดออก เสียงเอี๊ยดอ๊าดของประตูที่ไม่เคยถูกใส่น้ำมันดังก้องไปทั่วจนแทฮยอนแอบเบ้ปาก

“ยินดีต้อนรับค่ะ”




2

“เอาล่ะค่ะ เราจะทวนกฎหลักของเราให้คุณฟังอีกรอบนะคะ ข้อที่หนึ่ง คุณจะไม่มีทางหันหลังกลับหรือเปลี่ยนใจอีกแล้วระหว่างอยู่ในกระบวนการนี้ ข้อที่สอง เราขอทำลายหลักฐานที่คุณเคยติดต่อกับทางเราทิ้งทันทีหลังจากกระบวนการเสร็จสิ้น ข้อสุดท้าย เราไม่รับผิดชอบต่อผลข้างเคียงใดๆ ที่จะเกิดในอนาคตนะคะ” ผู้หญิงวัยกลางคนหน้าตาอ่อนกว่าวัยพูดจากคล่องแคล่วเหมือนสลักทุกประโยคเอาไว้ในสมองแล้วเปิดให้มันเล่นโดยอัตโนมัติ แทฮยอนพยักหน้า แม้จะลังเลแต่ก็ตอบด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น

“ครับ”

“โอเคค่ะ งั้นวันพรุ่งนี้เราจะไปที่บ้านของคุณตอนสามทุ่ม กรุณาอย่าให้ใครมารบกวนนะคะ” หญิงสาวบอกพลางยิ้มให้ 

แทฮยอนพยักหน้าอีกครั้ง ลุกขึ้นยืน หยิบใบเสร็จที่วางไว้บนเคาน์เตอร์พับเข้ากระเป๋ากางเกงตัวเองแล้วเดินออกจากตึกแถวเก่าๆ นี่




3

“ทำไมนายชอบทำหน้ายุ่งๆ” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น ท่ามกลางแดดร้อนระอุในเดือนเมษายน ไอศครีมที่อยู่ในโคนละลายเปรอะโคนลามไปถึงมือ

น่ารำคาญจริงๆ นัมแทฮยอนคิด

ทั้งผู้ชายคนนี้ และไอศครีม น่ารำคาญไปซะหมด

พวกเขาอยู่บนชายหาด หน้าร้อนกับชายหาดพร้อมไอศครีมที่กำลังละลายและหนังสือดีๆ สักเล่ม ไม่มีอะไรดีกว่านี้แล้วล่ะ เว้นแต่เรื่องน่ารำคาญพวกนี้นี่แหละ

“เพราะคุณชอบมายุ่งกับผมไง” แทฮยอนตอบ ปากกัดไอศครีมวานิลลาซอล์ทคาราเมลคำโต ชายตรงหน้ากลับฉีกยิ้มกว้าง สดใสราวกับเอาดอกทานตะวันดอกโตๆ มาตั้งไว้ตรงหน้า

“เห เพราะฉันเหรอเนี่ย แย่จัง” ตอบด้วยเสียงยียวนอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร แทฮยอนสงสัยว่าอะไรทำให้เขาต้องมานั่งทนฟังผู้ชายคนนี้กวนประสาทกันนะ

เขาคิด คิด และคิด

เขาคิดไม่ออก

เขามองชายตรงหน้า คิ้วขมวดเป็นปม

ชายตรงหน้ายื่นหน้าเข้ามา หัวเราะร่วน

“หน้าฉันมีอะไรติดเหรอ” เขาถาม ยิ้มอย่างอบอุ่นมาให้ แทฮยอนใจเต้นตึกตักเพราะรอยยิ้มนั่น ราวกับปฏิกริยาอัตโนมัติเมื่อใจเต้นแรง มือของแทฮยอนถือไอศครีมโปะลงกลางหัวของชายตรงหน้า

“เฮ้ยยยยย” เขาร้องเสียงหลง แทฮยอนทำหน้าเหลอหลา

“ผะ..ผมขอโทษ” พูดเสียงอ่อยเพราะสับสนและกลัวคนตรงหน้าโกรธ แต่คนๆ นั้นกลับหัวเราะ

“เวลาเขินแล้วเป็นแบบนี้สินะ เอาไอศครีมโปะหัวคนอื่น น่ารักจริงๆ” แทฮยอนได้แต่อ้าปากพะงาบๆ

เขินอะไร! เขาอยากจะพูดออกไปแต่มันไม่มีเสียงออกมา

“ดูสิหน้าแดงแล้ว โอ้ย เจ็บนะ!” เมื่อโดนแซว แทฮยอนก็เหยียบเท้าของคนตรงหน้าอย่างจังก่อนจะรีบวิ่งหนีไป หนีไปไหนไม่รู้ แทฮยอนไม่รู้อะไรเลย เขาวิ่ง หลับตาวิ่งออกมา หัวใจเขาเต้นรัว ไม่รู้เพราะเกิดจากการวิ่งหรือเพราะหน้าที่ร้อนผ่าวๆ อยู่ตอนนี้

แทฮยอนหยุดเมื่อรู้สึกถึงความเงียบอันน่าประหลาด

เขาลืมตาขึ้น รอบตัวว่างเปล่า มีเพียงสีดำอยู่รอบตัว

เขาสับสน คิดอะไรไม่ออก กอดเข่าตัวเองนั่งลงไป

“แทฮยอน!” เสียงทุ้มเรียกจากไกลๆ ในความมืด แต่หาต้นเสียงไม่เจอ เขามองรอบๆ น้ำตาเริ่มไหล

“แทฮยอน!” เสียงนั่นดูเป็นห่วง แทฮยอนร้องไห้หนักกว่าเดิม เขาลุกขึ้นยืน

“มินโฮ!” เขาร้องเรียก ตะโกนทั้งน้ำตา

“แทฮยอน!” เสียงนั่นไกลออกไปมากขึ้น

“มินโฮ!” แทฮยอนตะโกน วิ่งพล่านไปในความมืด เสียงที่ร้องเรียกเขาหายไปแล้ว แทฮยอนนั่งลงอย่างอ่อนแรง ร้องไห้

“มินโฮมินโฮมินโฮมินโฮ” เขาพึมพำราวกับมันเป็นบทสวดมนต์ที่ทำให้เขาอุ่นใจ




4

“นี่เราสองคนไปท้องฟ้าจำลองกันดีมั้ย” เสียงทุ้มและยียวนดังขึ้นขณะที่แทฮยอนนั่งฟังเพลงอยู่ พวกเขาสองคนอยู่บนรถประจำทาง กำลังจะเดินทางเข้าเมืองไปหาอะไรทำในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์

“ผมกะจะไปช็อปปิ้ง” แทฮยอนดึงหูฟังออกจากหูข้างนึงแล้วตอบ

“ก็ดูเสร็จก็ไปช็อปปิ้งกันไง ไปนะๆๆๆ ฉันอยากดูมากกกกกกกกก” คนทึ่มคนเดิมพยายามอ้อนเขา แทฮยอนกลอกตา

“ไปก็ไป”

“เย่!” ซง มินโฮดึงแทฮยอนมากอด แทฮยอนรีบผลักออกก่อนจะหันไปกัดฟันดุ

“เราอยู่บนรถ!”

มินโฮยิ้มแห้งๆ เหมือนนึกได้ ทำหน้ารู้สึกผิดสุดชีวิต แทฮยอนหันกลับไปทางเดิม เอาหูฟังข้างที่ดึงออกยัดกลับเข้าไปที่เดิม แทฮยอนหลับตาลงอีกครั้ง

เมื่อลืมตาขึ้นเขากลับพบแต่รถประจำทางที่ไร้ผู้คน แม้แต่มินโฮที่นั่งข้างๆ ก็หายไป คนขับก็หายไปแต่รถกลับเคลื่อนที่ไปข้างหน้า

นี่มันอะไรกัน

แทฮยอนขนลุก น้ำตาจะไหลอยู่รอมร่อ

เขาโดนผีหลอกเหรอไงกัน เขาคิด มองไปรอบๆ รถประจำทางที่ร้างผู้คน

แทฮยอนกอดเข่าตัวเองอยู่บนเบาะ ฟุบหน้าลงกับเข่าตัวเอง

“มินโฮคุณอยู่ไหน” สิ้นเสียงน้ำตาก็หยดเผาะๆ ลงบนเข่าของแทฮยอนจนเปียก

ร้องจนหมดแรงมินโฮก็ไม่โผล่ออกมา




5

“ฉันจูบนายทั้งทีแต่นายกลับมีปฏิกริยาแค่นี้เหรอ” มินโฮถาม ยื่นริมฝีปากล่างออกมาราวกับเด็กน้อยๆ ขี้งอน

“แล้วจะให้ผมทำยังไงเล่า” แทฮยอนตอบทั้งที่เบนหน้าไปทางอื่นซ่อนความอายและหัวใจที่เต้นแรงเอาไว้ พวกเขาอยู่กันที่ริมระเบียงขนาดกว้างในอพาร์ตเมนท์ของมินโฮ

ก่อนหน้านั้นพวกเขาออกมาสูบบุหรี่กันข้างนอกหลังจากซดโซจูกันไปหนักเอาการ แล้วสุดท้ายก็ลงเอยจูบกันเฉย

“นายรักฉัน ใช่ไหม เพราะฉันน่ะ รักนายมากๆ”

“บ้าหรือเปล่า พูดอะไรออกมารู้ตัวบ้างมั้ย เมาแล้วไร้สาระทุกที”

“ไม่ ฉันพูดจริง พอเมาก็ใจกล้าที่จะพูด ฉันรักนายนะ”

“ไร้สาระจริงๆ”

“นายจะหักอกฉันแบบนี้เหรอ ไม่สิ นายก็รักฉันเหมือนกัน ฉันรู้ดี”

“หลงตัวเองแล้วคุณ”

“ไม่”

“ผมไม่ได้รักคุณ แต่ก็ไม่ได้เกลียดคุณ ผมชอบคุณ...ในระดับหนึ่ง” แทฮยอนพึมพำประโยคท้ายเบาๆ

“เห็นมั้ย นายยอมรับแล้วว่ารักฉัน”

“มโนไปเองอีกแล้ว ผมไม่ได้บอ-”

มินโฮขโมยจูบแทฮยอนอีกครั้งก่อนที่แทฮยอนจะพูดจบประโยค คราวนี้พวกเขาจูบกันเนิ่นนานกว่าเดิม รู้ตัวอีกทีแทฮยอนก็อยู่บนเตียงโดยที่มีมินโฮคร่อมร่างไว้

“เรามาคบกันเถอะ ฉันจะทำให้นายมีความสุขที่สุดในโลกเอง” หลังจากถอนจูบอันเร่าร้อนมินโฮก็พูดออกมาพร้อมยิ้มกว้าง แทฮยอนที่เขินแทบตายอยู่แล้วไม่สามารถตอบอะไรได้ เขายื่นใบหน้าเข้าไปหามินโฮก่อนจะจูบเบาๆ ที่ริมฝีปากแทนคำตอบ

“ขี้ยั่วนี่นา” มินโฮบอกก่อนจะมอบจูบอันเร่าร้อนมากขึ้นให้แทฮยอน

คืนนั้นเป็นคืนที่แทฮยอนไม่มีวันลืม

เช้าวันต่อมาแทฮยอนลืมตาอยู่ในอ้อมกอดอุ่นของมินโฮ ร่างกายปวดร้าวจากเมื่อคืน แทฮยอนมองหน้ามินโฮที่กำลังหลับพริ้ม ใช้มือประคองใบหน้านั้นก่อนจะหลับตาแล้วจุมพิตเบาๆ บนหน้าผากมน

แต่เมื่อลืมตาขึ้นมา แทนที่จะพบมินโฮลืมตายิ้มหน้าพริ้ม เขากลับพบเจอความว่างเปล่า แทฮยอนผุดลุกขึ้นนั่งชันเข่า ถอยร่นหลังติดหัวเตียง กอดเข่าตัวเองอีกครั้ง น้ำตาไหลและร้องไห้ออกมา

เขาร้องไห้ สับสนว่าเกิดอะไรขึ้น

เขากำลังจะเอ่ยเรียกชื่อคนที่ทำให้อุ่นใจได้

แต่เขานึกไม่ออก เหมือนมันติดที่ไหนสักแห่ง แต่เขาพูดออกมาไม่ได้

แทฮยอนทำได้แต่อ้าปากพะงาบๆ แล้วร้องไห้

รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะทำสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตหายไป




6

“คุณมันงี่เง่า ผมเกลียดคุณ ออกไปเลย!” แทฮยอนแผดเสียงพร้อมเขวี้ยงข้าวของใส่ชายตรงหน้าไม่ยั้ง ชายคนนั้นยังคงยืนนิ่ง

พวกเขาอยู่กันในอพาร์ตเมนท์ของแทฮยอน พ่วงด้วยการทะเลาะกันใหญ่โต เพราะเรื่องหนึ่งเรื่องที่จุดชนวนขึ้นมาเลยพาลให้แทฮยอนระเบิดอารมณ์และรวมเรื่องอื่นๆ เข้ามาด้วย 

“ฉันขอโทษ แต่ฉันไม่ได้คิดอะไรจริงๆ มันเป็นงาน”

“งานอีกแล้ว อ้างได้ตลอด! ทีผมอยู่กับเพื่อนคุณยังหึงจนแทบบ้าจนผมจะไม่มีเพื่อนอยู่แล้ว ทีแบบนี้ยังอ้างว่าเป็นงานอีก!”

“หยุดงี่เง่าสักทีน่าแทฮยอน นายเรียกคนพรรค์นั้นว่าเพื่อนได้ไง มันจ้องจะงาบนายตลอดเวลา ส่วนนายก็ให้ท่ามันตลอด”

“ออกไปเลย ผมไม่น่าเกิดมาเจอคุณเลย เราไม่น่ารู้จักกันเลย ออกไป ผมเกลียดคุณ!”

“ไม่ ฉันจะไม่ไปไหน”

“ได้ งั้นผมไปเอง!” ว่าจบแทฮยอนก็เดินออกไป มินโฮพยายามจะรั้งเอาไว้แต่ก็ไม่ทัน แทฮยอนร้องไห้ มองไม่เห็นทางข้างหน้าอีกต่อไป เขาหลับตาลงเพื่อไล่น้ำตา

เมื่อลืมตาขึ้นมาเขาเจอแต่ความมืด แทฮยอนเคว้งคว้าง

ทำไมเขามาอยู่ตรงนี้

แล้วเขาร้องไห้ทำไมกัน นี่มันเกิดอะไรขึ้น

เขานึกไม่ออกอีกแล้ว เขารู้ว่าสิ่งสำคัญบางอย่าง...คนสำคัญกำลังหายไปจากเขา แต่ไม่รู้ว่าใคร

เขานั่งลง รอบนี้ไม่ร้องไห้ เขาเอนตัวนอนลงท่ามกลางความมืด ปล่อยให้มันกลืนกินเขา แทฮยอนยิ้มกว้าง

พอจะเข้าใจแล้ว…




7

เสียงเพลงอึกทึกไปทั่ว โชคดีที่ไม่มีบ้านเรือนอยู่ในละแวกนี้เลย งานเลี้ยงส่งท้ายให้นักศึกษาปีสี่ งานเลี้ยงแห่งปี ทุกคนต้องมาร่วม แม้แต่แทฮยอนที่เกลียดการเข้าสังคมก็ถูกลากมา เขาอยู่ปีสาม

แทฮยอนจำงานเลี้ยงนี้ได้ จุดเริ่มต้นของทุกอย่างเมื่อ 5 ปีก่อน...

แทฮยอนเดินหนีออกไปจากตัวบ้าน หลบไปหลังบ้านที่ผู้คนน้อยกว่าและพยายามเลี่ยงกลุ่มคนที่ขยับร่างกายถูกันไปมาตามจังหวะเพลงฮิตแห่งปีที่กำลังติดหูไปทั่ว

ยืนจิบโค้กในมือราวกับมันเป็นเหล้า

“แทฮยอน” เสียงเรียกอันคุ้นเคยทำให้ใจตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม

“คุณ…” แทฮยอนเอ่ยเสียงแผ่ว หันหลังไปพบมินโฮมองหน้าเขาอยู่

“ทำไมนาย...นี่มันเกิดอะไร ทำไมฉันมาอยู่ที่นี่ได้ นี่ฉันฝันไปเหรอ” มินโฮดูสับสนมากๆ เขายังอยู่ในวัยนักศึกษา แทฮยอนนึกถึงมินโฮในปัจจุบัน เขาไม่ได้ต่างจากเดิมเท่าไหร่เลย

แบบนี้ถึงได้รัก

“คงเป็นเพราะกระบวนการลบความทรงจำล่ะมั้ง” แทฮยอนบอก ยิ้มขื่นๆ ใบหน้าของมินโฮสับสนกว่าเดิม

“อะ...อะไรนะ!?

“ลบความทรงจำน่ะ ตอนนี้ผมคงกำลังโดนลบความทรงจำที่เกี่ยวกับคุณอยู่ คุณก็เลยโดนด้วย ใครจะไปคิดเนอะว่าเทคโนโลยีแบบนี้มันมีอยู่จริง” แทฮยอนพูดด้วยน้ำเสียงฟังสบายเหมือนพูดเรื่องลมฟ้าอากาศ

“แทฮยอน! ลบอะไรกัน ฉันไม่ยอมนะ!” มินโฮวิ่งเข้ามาบีบต้นแขนแทฮยอนทั้งสองข้าง

“เพราะแบบนี้ล่ะมั้งมันเลยยังผิดกฎหมายอยู่” เหมือนคำพูดของมินโฮไม่ได้เข้าไปในหูของแทฮยอน

“อันที่จริง เขาบอกผมแล้วล่ะว่าในขั้นตอนสุดท้าย ผมจะได้เจอคุณ เขาบอกว่าผมจะได้บอกลาคุณอย่างเหมาะสมก่อนที่จะลืมตามาแล้วจำอะไรไม่ได้อีก จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าโดนลบความทรงจำไป” แทฮยอนอธิบายอย่างใจเย็น กลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา มินโฮปล่อยมือออกจากต้นแขนของแทฮยอน

“เพราะเรื่องนั้นน่ะเหรอ ฉันขอโทษจริงๆ นะ หยุดมันแล้วเรามาเริ่มต้นใหม่กันเถอะ จะอะไรฉันก็ยอมแล้ว ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้นอนกับผู้หญิงเพราะอยาก มันเป็นเพราะฉันเมามากๆ แล้วเธอก็คล้ายๆ นาย ฉันเลย...พระเจ้าเอ้ย แม่ง!” มินโฮพูดรัวๆ แทฮยอนก็ยืนยิ้มขื่นๆ รับฟัง

“ไม่เป็นไรๆ ผมให้อภัยคุณ เพราะฉะนั้นผมเลยเลือกทำแบบนี้ มันเจ็บปวดมากๆ เมื่อนึกถึงภาพคุณกับผู้หญิงคนนั้น ผมไม่ชอบความเจ็บปวด และคิดว่ามันคือทางออกที่ดีที่สุด แต่นั่นก็ไม่ใช่เหตุผลทั้งหมดที่ผมเลือกทำแบบนี้ ผมว่าเราต่างหมดรักกันและกันไปแล้วล่ะ”

“แทฮยอน นายมันเห็นแก่ตัว ไม่นึกถึงใจฉันบ้างเลย ฉันไม่อยากลืมนาย นายคือคนที่ฉันรักที่สุด แล้วฉันจะอยู่ยังไง” มินโฮพูด น้ำตาของเขาไหลออกมาด้วย แทฮยอนใจอ่อนยวบแต่รู้ดีมันไม่มีทางหยุดเรื่องนี้แล้ว

คนหมดรักกันจะยังพร่ำบอกว่ารักกันได้อยู่อีก ใจร้ายจัง

แทฮยอนเดินเข้าไปกอดมินโฮ

“อย่างน้อยผมก็มาบอกลาคุณนี่ไง” แทฮยอนกระชับอ้อมกอด “ขอบคุณนะ สำหรับทุกอย่าง” เขาพูด 

“ผมรักคุณเสมอ ถึงผมจะหายไปจากความทรงจำของคุณแต่คุณก็ยังเป็นคุณ คุณที่ผมหลงรักหมดใจ” แทฮยอนพูด ฝังหน้าลงบนไหล่ของมินโฮ ไม่ได้สัมผัสความอบอุ่นนี้มานานแค่ไหนแล้วนะ เขาคิด 

บ้านเริ่มส่งเสียงร้าวราวกับจะพัง คนในงานเลี้ยงเริ่มหายไปทีละคนอย่างเงียบๆ

“หยุดนะ…” มินโฮพูดเสียงแผ่ว กอดแทฮยอนแน่น ไม่อยากให้แทฮยอนไปไหน

“บางทีผมก็คิดว่าจะดีกว่ามั้ยนะ ถ้าเราไม่ได้เจอกัน แต่พอมีคุณในทุกๆ วันที่ผ่านมาผมก็ดีใจจริงๆ ที่ได้เจอคุณ แต่ว่ามันพังทลายหมดแล้ว ผมทนเจ็บปวดต่อไปไม่ได้แล้ว” แทฮยอนอธิบาย “ผมเชื่อว่าคุณจะมีความสุขเหมือนที่เคยมีความสุขกับผม”

ฝาบ้านเริ่มหลุดออกมาก่อนจะแตกเป็นเสี่ยงๆ เหมือนกับความสัมพันธ์ของพวกเขาสองคนในตอนนี้ พวกเขากำลังจะปิดฉากความสัมพันธ์ในบ้านที่เป็นจุดเริ่มต้นของทุกอย่าง

แทฮยอนผละจากอ้อมกอดก่อนจะจุมพิตมินโฮที่กำลังยืนนิ่งทั้งน้ำตาเบาๆ

“ผมรักคุณมากนะ รักจนอยากลืมเลยล่ะ”

“ฉันจะตามหานาย บนโลกนั่น จะมองหานายจนกว่าจะเจอ ไม่ว่ามันจะใช้เวลานานแค่ไหน จนถึงตอนนั้นฉันมั่นใจว่าฉันจะตกหลุมรักนายใหม่อีกครั้ง และฉัน...ฉันจะรักนายให้ดีกว่าครั้งก่อน” มินโฮจ้องเข้าไปในดวงตาของแทฮยอนพร้อมทั้งเอ่ยคำสัญญาหวานหูที่ดีเกินกว่าจะเป็นจริง ตอนนั้นเองที่แทฮยอนเริ่มร้องไห้

แทฮยอนโผเข้ากอดมินโฮอีกครั้ง มินโฮกอดตอบอย่างอบอุ่น

“ไม่เป็นไร ยังไงฉันจะต้องได้เจอนายอีก...ลาก่อน” มินโฮพูดเบาๆ แต่เต็มไปด้วยความมั่นใจ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงมั่นใจขนาดนั้น

ยังไงซะ เราทั้งคู่ก็จะจำอะไรไม่ได้อีกต่อไปแล้ว เป็นเพียงแค่หน้ากระดาษเปล่า เนื้อหาทั้งหมดถูกลบเกลี้ยง

แทฮยอนยิ้มทั้งน้ำตา ไม่อยากทำลายความหวังของมินโฮ แม้รู้ดีว่ามันไม่มีทางเป็นได้ เขาเอ่ยคำบอกลาด้วยเสียงแผ่วเบา “ลาก่อน ต่อให้เราไม่ได้เจอกันอีกแล้ว คุณจะมีความสุขเสมอ ผมสัญญา”



บ้านทั้งหมดพังลงมา เหลือเพียงความมืดและความเงียบอยู่รอบๆ พวกเขา มินโฮดึงแทฮยอนมาจูบครั้งสุดท้ายอย่างเนิ่นนาน จนกระทั่งแทฮยอนไม่สามารถสัมผัสความเปียกชื้บบนริมฝีปากของตัวเองได้อีก เพราะมินโฮได้หายไปแล้ว


เกิดอะไรขึ้นนะ เขานึกในใจ




ความทรงจำทั้งหมดเกี่ยวกับซงมินโฮในสมองของนัมแทฮยอนโดนลบหมดสิ้นแล้ว









8

เดือนเมษาที่ร้อนระอุ แทฮยอนยืนถือไอศครีมที่กำลังละลายไหลเปรอะมือ

น่ารำคาญจริงๆ แทฮยอนคิดในใจขณะพยายามกินไอศครีมรสวานิลลาซอล์ทคาราเมลไปด้วย

แทฮยอนเดินหนีบหนังสือไว้ใต้รักแร้พลางกินไอศครีม สายตาสอดส่องหาทำเลเหมาะๆ ในการอ่านหนังสือ แต่ด้วยความที่เอาแต่มองหาที่ แทฮยอนไม่ได้ดูทาง เขาเดินชนกับผู้ชายคนหนึ่งเข้า

ไอศครีมวานิลลาซอล์ทคาราเมลเปรอะกลางเสื้อกล้ามสีขาวของชายตรงหน้า

“แม่ง” ชายตรงหน้าสบถ แทฮยอนตกใจรีบขอโทษพลางเอามือเช็ดเสื้อให้

“ขะ...ขอโทษที ผมไม่ทันมองน่ะ”

“ไม่เป็นไร” ชายตรงหน้าพินิจมองแทฮยอนที่ทำหน้าเลิกลั่กแล้วสรุปกับตัวเองว่า น่ารักดีจังแฮะ เห็นแล้วอยากแกล้ง

“เดี๋ยวผมวิ่งไปซื้อเสื้อมาให้คุณนะ รอตรงนี้แหละ” แทฮยอนบอก

“เดี๋ยว ไม่ต้องหรอก แค่บอกชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทร ขนมที่ชอบ หนังสือที่รักมา ฉันก็ให้อภัยแล้ว”

แทฮยอนขมวดคิ้วทันที

“อะไรนะ”

“ก็อย่างที่บอก ฉันจะจีบนาย”

แทฮยอนขมวดคิ้วแน่นกว่าเดิม

“ทำไมนายชอบทำหน้ายุ่งๆ” ชายแปลกหน้าถามเสียงยียวนพร้อมรอยยิ้มที่สดใสเหมือนเอาดอกทานตะวันมาวางไว้ตรงหน้า






“เพราะคุณนั่นแหล” แทฮยอนตอบ





아니
No





.


.


writer : @stylojerry



#510330tracks

track, beating and them

















Comments

Popular posts from this blog

[ Take me out ] - END

[ Take me out ] - 01